เจ้าหญิงสโนไวท์ (Princess Snow White)
เจ้าหญิงสโนไวท์ (Princess Snow White) เป็นตัวการ์ตูนตัวหนึ่งของดิสนี่ย์ที่เป็นการ์ตูนเรื่องยาวเรื่องแรกออกฉายในปี ค.ศ. 1937 นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าหญิงพระองค์หนึ่งใน ดิสนี่ย์ ปริ้นเซส ด้วย
สโนไวท์ปรากฏกายครั้งแรกในภาพยนตร์การ์ตนเรื่อง “สโนไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด” ในปี ค.ศ. 1937 ซึ่งเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาวเรื่องแรกของ วอล์ท ดิสนี่ย์ หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 2000 เธอถูกคัดเลือกให้เข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกหลักของ ดิสนี่ย์ ปริ้นเซส
เกี่ยวกับสโนไวท์
นิสัยของเธอ
•สโนว์ไวต์มีนิสัยดี ร่าเริง
สิ่งที่ชอบ
•การร้องเพลงและเต้นรำช่วยให้สโนไวท์ร่าเริงเสมอและช่วยให้เธอมีความกล้าเผชิญกับสิ่งที่เธอกลัว
•การเล่าเรื่องเป็นความสามารถพิเศษสุดของสโนไวท์ คนแคระชอบฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับวันที่เจ้าชายจะมารับสโนไวท์ไปอยู่ด้วยกันที่ปราสาทอย่างมีความสุข
•สัตว์ป่าและนกชอบในความสุภาพและมีเมตตาของสโนไวท์ พวกมันยังช่วยเธอทำความสะอาดกระท่อมของคนแคระอีกด้วย
•สโนไวท์ชอบเก็บดอกไม้น่ารักๆในป่า แต่เธอคงไม่สามารถนำมันกลับไปกระท่อมได้เพราะดอกไม้จะทำให้สนีซซี่จาม!
•คนแคระดีใจที่พบว่าสโนไวท์สามารถทำอาหารได้อร่อยและชอบเธอมากขึ้นเมื่อรู้ว่าเธอสามารถทำกูซเบอร์รี่พายของโปรดของพวกเขาได้!
เพื่อนของสโนไวท์
สโนไวท์มีเพื่อนในทุกๆที่ที่เธอไป เพราะเธอมีความสุภาพและอ่อนโยน เหล่าสัตว์ป่ากับพวกนกและคนแคระทั้งเจ็ดรักเธอและพยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยปกป้องเธอจากอันตราย
คนแคระทั้งเจ็ดเป็นผู้ชายตัวเล็กๆเจ็ดคนเจ้าของกระท่อมที่สโนไวท์มาอาศัยอยู่ด้วย พวกเขาปกป้องสโนไวท์จากอันตรายและยกห้องนอนให้เธอ คนแคระทั้งเจ็ดประกอบด้วย
•สโนว์ไวต์มีนิสัยดี ร่าเริง
สิ่งที่ชอบ
•การร้องเพลงและเต้นรำช่วยให้สโนไวท์ร่าเริงเสมอและช่วยให้เธอมีความกล้าเผชิญกับสิ่งที่เธอกลัว
•การเล่าเรื่องเป็นความสามารถพิเศษสุดของสโนไวท์ คนแคระชอบฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับวันที่เจ้าชายจะมารับสโนไวท์ไปอยู่ด้วยกันที่ปราสาทอย่างมีความสุข
•สัตว์ป่าและนกชอบในความสุภาพและมีเมตตาของสโนไวท์ พวกมันยังช่วยเธอทำความสะอาดกระท่อมของคนแคระอีกด้วย
•สโนไวท์ชอบเก็บดอกไม้น่ารักๆในป่า แต่เธอคงไม่สามารถนำมันกลับไปกระท่อมได้เพราะดอกไม้จะทำให้สนีซซี่จาม!
•คนแคระดีใจที่พบว่าสโนไวท์สามารถทำอาหารได้อร่อยและชอบเธอมากขึ้นเมื่อรู้ว่าเธอสามารถทำกูซเบอร์รี่พายของโปรดของพวกเขาได้!
เพื่อนของสโนไวท์
สโนไวท์มีเพื่อนในทุกๆที่ที่เธอไป เพราะเธอมีความสุภาพและอ่อนโยน เหล่าสัตว์ป่ากับพวกนกและคนแคระทั้งเจ็ดรักเธอและพยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยปกป้องเธอจากอันตราย
คนแคระทั้งเจ็ดเป็นผู้ชายตัวเล็กๆเจ็ดคนเจ้าของกระท่อมที่สโนไวท์มาอาศัยอยู่ด้วย พวกเขาปกป้องสโนไวท์จากอันตรายและยกห้องนอนให้เธอ คนแคระทั้งเจ็ดประกอบด้วย
ศัตรูของสโนไวท์
• ราชินี ถึงแม้ราชินีจะ
เป็นแม่เลี้ยงของสโนไวท์ พระนางงดงามแต่แฝงด้วยความ
อำมหิตและสามารถทำทุกวิธีที่ทำให้พระนางเป็นผู้ที่งามเลิศ
ในปฐพีแม้ต้องกำจัดสโนไวท์ก็ตาม
• นายพราน แม้ว่านายพรานจะทำร้ายสโนไวท์ก็ตามแต่ลึกๆ
แล้วเขาเป็นคนดี นายพรานเป็นทาสผู้ซื่อสัตว์ของราชินี
พระนางบังคับให้นายพรานกำจัดสโนไวท์ทิ้ง แต่นายพรานทำ
ไม่ได้ เขาปล่อยสโนไวท์หนีไปและนำหัวใจหมูไปถวายราชินี
แทนหัวใจของสโนไวท์
เนื่อเรื่องย่อ
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว..
ในพระราชวังอันใหญ่โต พระราชาและพระราชินีมีพระธิดาตัวน้อยที่ผิวพรรณงามผ่อง ขาวราวปุยหิมะ นามว่า สโนไวท์ แต่หลังจากที่พระราชินีให้ประสูติพระธิดาได้ไม่นาน พระองค์ก็สวรรคต พระราชาได้อภิเษกสมรสกับหญิงงาม และทรงแต่งตั้งให้เป็นพระราชินีองค์ใหม่โดยที่พระองค์ไม่ทรงทราบเลยว่า พระมเหสีองค์ใหม่นี้ ที่แท้เป็นแม่มดที่ร่ายมนตร์ปลอมตัวจนสวยจนงามมาเพื่อที่จะยึดครองเมืองนี้
ทุกวันพระราชินีองค์ใหม่จะมายืนหน้ากระจก แล้วถามว่า
“ กระจกจ๋า บอกข้ามาเถิด
ว่าใครงามเลิศ ในปฐพี”
กระจก จีบปาก จีบคอ
ประแจ๋ ประจ๋อ “มเหสี มเหสี”
เอียงอาย “อุ๊ยตาย จริงเหรอ”
กระจกปั้นเจ๋อ “จริงซี้ จริงซี้”
กระทั่งสโนไวท์ โตขึ้น เป็นสาวสวยผมดำขลับ ผิวขาวดั่งปุยหิมะ ปากแดงดั่งกลีบกุหลาบ
เหมือนเช่นทุกวัน พระราชินีองค์ใหม่มายืนหน้ากระจก แล้วถามว่า
“กระจกจ๋า บอกข้ามาเถิด
ว่าใครงามเลิศ ในปฐพี”
กระจก อ้ำ อ้ำ อึ้ง อึ้ง
หลบตา นิดหนึ่ง “สโนไวท์ น่ะซี”
พระราชินีองค์ใหม่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟสั่งจับสโนไวท์ทันที
แต่โชคดีที่ทหารเกิดความสงสาร จึงปล่อยตัวสโนไวท์แล้วให้รีบหนีไป
สโนไวท์จึงจำต้องออกจากพระราชวัง เดินเท้าเข้าไปจนถึงป่าลึก กระทั่งมาพบบ้านหลังเล็ก ๆ ที่ปลูกอยู่กลางป่า ด้วยความเหนื่อยล้าจึงเดินเข้าไปเพื่อหวังจะขอพักสักครู่ก่อนที่จะเดินทางต่อไป
สโนไวท์เคาะประตูเท่าไรก็ไม่มีใครออกมาเปิดสักที จึงตัดสินใจผลักประตูเข้าไป พอประตูเปิด สโนไวท์ต้องประหลาดใจอย่างมาก เพราะโต๊ะ เตียง และของใช้ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านนั้น มี 7 ชิ้น แต่ละชิ้นนั้นมีขนาด “เล็กกระจิ๋วหลิว”
สโนไวท์เห็นข้าวของระเกะระกะจึงจัดการเก็บกวาดจัดจนทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเข้าทางเข้าที่
ด้วยความเหนื่อยระโหยโรยแรง สโนไวท์ เผลอหลับไป ขณะที่นอนเพลินๆ อยู่นั้นก็ต้องสะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียง กุบๆ กับ ๆ สโนไวท์สะดุ้งสุดตัว แล้วเตรียมหนี..แต่ไม่ทันเสียแล้ว
คนแคระทั้ง 7 เดินเข้ามาในบ้าน เมื่อเห็นสโนไวท์จึงถามไถ่ด้วยความเมตตาว่าเกิดอะไรขึ้น สโนว์ไวท์ตัดสินใจเล่าเรื่องราวให้ฟังอย่างละเอียด คนแคระทั้ง 7 เกิดความสงสารจึงชวนให้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขในบ้านหลังน้อยนี้
เหมือนเช่นทุกวัน พระราชินีองค์ใหม่มายืนหน้ากระจก แล้วถามว่า
“กระจกจ๋า บอกข้ามาเถิด
ว่าใครงามเลิศ ในปฐพี”
กระจก อ้ำ อ้ำ อึ้ง อึ้ง
หลบตา นิดหนึ่ง “สโนไวท์ น่ะซี”
พระราชินีองค์ใหม่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพราะรู้ทันทีว่าสโนไวท์ยังมีชีวิตอยู่ รีบออกจากพระราชวัง สืบจนรู้ว่าสโนไวท์หนีมาหลบอยู่กับคนแคระทั้ง 7 จึงปลอมเป็นคนแก่ผมหงอกมาเคาะประตูบ้าน แล้วทำทุกวิถีทางจนสโนไวท์ใจอ่อนยอมกินแอ๊ปเปิ้ล โดยไม่รู้ว่าแอ๊ปเปิ้ลลูกนั้นอาบยาพิษ พอกินปุ๊บสโนไวท์ก็ฟุบหลับไปในทันที
คนแคระทั้ง 7 กลับมาเห็น จึงช่วยกันนำร่างสโนไวท์ใส่ในโลงแก้วใสประดับประดาอย่างสวยงาม
วันหนึ่งเจ้าชายหลงทางมาพบ เกิดต้องตาต้องใจ จึงขอนำสโนไวท์เข้าไปไว้ในพระราชวัง
ขณะที่ทหารแบกโลงแก้วนั้น เกิดสะดุดหกล้มทำให้โลงแก้วตกแตก สโนไวท์ตกออกจากโลงแก้ว แอ๊ปเปิ้ลจึงกระเด็นออกจากปาก
สโนไวท์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา แล้วขอร้องให้เจ้าชายพาเข้าไปพบพระราชบิดาในพระราชวัง
พระราชาดีพระทัยมากที่ได้พบพระราชธิดา และเมื่อทรงทราบเรื่องราวจึงสั่งประหารชีวิตพระราชินีทันที แล้วสั่งให้จัดงานแต่งงานสโนไวท์และเจ้าชายอย่างยิ่งใหญ่
จากนั้น สโนไวท์และเจ้าชายจึงครองเมืองอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา
0 ความคิดเห็น: